ผู้ที่ควรระวังและห้ามกิน “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน

ทราบความเสี่ยงและข้อควรระวังกันไปแล้ว… ขออีกนิดค่ะ! อ่านต่อสักนิดสำหรับผู้ที่ควรระวังและห้ามกิน “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” เพื่อความปลอดภัยของเพื่อน ๆ น๊า…

-ผู้ที่ประจำเดือนมามาก : การรับประทานยาขับเลือดจะทำให้มีอาการตกเลือดมากขึ้น อีกทั้งเพิ่มความเสี่ยงการเป็นช็อกโกแล็ตซีสต์มากยิ่งขึ้น
-ผู้ที่ช่องคลอดอักเสบ หรือมีแผลที่ช่องคลอด, มดลูก, ปากมดลูก : การรับประทานยาจะส่งผลให้มีการอักเสบเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกระตุ้นให้ตกขาวและเนื้อเยื่อมีอาการบวมมากยิ่งขึ้น
-ผู้ที่เป็นมะเร็ง & เนื้องอก : ยาขับเลือดหรือยาสตรีมีส่วนกระตุ้นให้เนื้องอกและซีสต์เติบโตขึ้น อีกทั้ง ยังมีส่วนเร่งให้มะเร็งกำเริบอีกด้วย
-ผู้ที่กำลังให้นมบุตร : เนื่องจากตัวยามีส่วนผสมของแอลกฮอลล์ จึงทำให้การนมลูกอาจเป็นอันตรายและมีสารเจือปน
-ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับความดันโลหิต : การกินยาดังกล่าวมีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเส้นเลือดถูกบีบมากขึ้น

เอาล่ะค่ะ! หลังจากทราบกันมาพอสมควรในตัวของ “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” กันไปแล้ว
เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงประเมินความเสี่ยงของตัวเองกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าสามารถลองกินได้หรือไม่
ดังนั้น เรามาดูคำแนะนำในการรับประทานและการใช้งานกันเลยดีกว่าค่ะ! 😀

ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยน๊า… ว่ายาขับประจำเดือนมีหลายยี่ห้อมาก เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อตามที่สะดวกได้เลยนะคะ
โดยควร ยึดถือเอาฉลากการใช้ยาและการรับประทานตามข้างกล่อง ของยี่ห้อนั้น ๆ เป็นหลัก!

ซึ่งโดยมากวิธีรับประทานส่วนใหญ่ ครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า – เย็น
หรือตามฉลากรายละเอียดยี่ห้อที่เพื่อน ๆ เลือกซื้อได้เล้ย!

ปรึกษาการวางแผนครอบครัว การตั้งครรภ์ไม่พร้อม >> คลิกปรึกษาฟรี